แพ็คเกจช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนจำนวน 6.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.25 ล้านล้านบาท) เพิ่งผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยคาดว่าสมาชิกวุฒิสภาจะมีมติผ่านร่างกฎหมายภายในไม่กี่วันข้างหน้า ก่อนที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะลงนามบังคับใช้ มาดูกันว่ายูเครนจะได้อะไรจากแพ็กเกจช่วยเหลือนี้ และจะสร้างความแตกต่างอะไรให้กับความพยายามสกัดการรุกคืบของรัสเซีย
พ็คเกจช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน 61,000 ล้านดอลลาร์ของสหรัฐฯ แบ่งออกเป็น
• 23,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับเติมอาวุธ เสบียง และสิ่งอำนวจความสะดวกต่างๆ
• 14,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับโครงการริเริ่มความช่วยเหลือด้านความมั่นคงยูเครน (Ukraine Security Assistance Initiative) ซึ่งเป็นโครงการสนับสนุนเงินทุน นำโดยกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เพื่อช่วยฝึกอบรมกองทัพยูเครน จัดหาอุปกรณ์และดำเนินโครงการให้คำปรึกษา
• 11,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับปฏิบัติการปัจจุบันของกองทัพสหรัฐฯ ในภูมิภาคดังกล่าว เสริมสร้างศักยภาพกองทัพยูเครน และเพิ่มความร่วมมือด้านข่าวกรองระหว่างยูเครนและสหรัฐฯ
• 8,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับความช่วยเหลือนอกเหนือจากทางทหาร เช่น ช่วยรัฐบาลยูเครนจ่ายเงินเดือน
สำนักข่าวบีบีซี (BBC) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แพ็คเกจช่วยเหลือนี้อาจลงไปกับยุทโธปกรณ์ 3 ส่วน ที่ยูเครนต้องการเร่งด่วนที่สุดได้แก่ ระบบป้องกันทางอากาศ ขีปนาวุธพิสัยกลางและพิสัยไกล และกระสุนปืนใหญ่
ระบบป้องกันทางอากาศ
การสกัดภัยคุกคามทางอากาศจากรัสเซียสำคัญอย่างยิ่งต่อการปกป้องเมืองและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญเช่น โรงไฟฟ้า สัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ระบุว่า ยูเครนถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธรัสเซียแล้วเกือบ 1,200 ลูก โดรนกว่า 1,500 ลำ และระเบิดนำวิถี 8,500 ลูก เฉพาะในปีนี้
ยูเครนมีระบบป้องกันทางอากาศที่ได้มาจากชาติตะวันตกหลายตัว ตั้งแต่ขีปนาวุธพิสัยใกล้ “สติงเกอร์” ไปจนถึงระบบที่ล้ำสมัยและราคาสูงมากอย่าง ระบบขีปนาวุธ “แพทริออต” โดยเซเลนสกีบอกว่า ยูเครนต้องการระบบขีปนาวุธ “แพทริออต” อีกอย่างน้อย 7 ชุด หรืออย่างอื่นที่แทนกันได้
ขีปนาวุธร่อนและขีปนาวุธแบบทิ้งตัวของรัสเซีย ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศ S-300 และ S-400 ที่ได้รับการดัดแปลง และโดรนชาเฮด-136 ที่ผลิตโดยอิหร่านอีกหลายร้อยลำ เป็นอาวุธที่ตอบโต้ได้ยาก เนื่องจากแต่ละครั้งที่ยิงหรือส่งขึ้นมามีจำนวนมาก
ยุทธวิธีหนึ่งที่นิยมใช้เพื่อเอาชนะระบบป้องกันทางอากาศ คือสร้างเป้าหมายจำนวนมาก เพื่อป่วนการสกัดและระบบเรดาร์ติดตาม และทำให้ขีปนาวุธของอีกฝ่ายร่อยหรอ
ขีปนาวุธพิสัยกลางและพิสัยไกล
แต่สงครามภาคพื้นดินก็สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน เพราะตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ยูเครนเสียดินแดนภาคตะวันออกให้แก่กองกำลังรัสเซียไปแล้วเกือบ 583 ตารางกิโลเมตร (ประมาณ จ.ภูเก็ต) เนื่องจากขาดแคลนปืนใหญ่
ระบบจรวดปืนใหญ่เคลื่อนที่คล่องตัวสูง หรือ ไฮมาร์ส (HIMARS) มีบทบาทสำคัญอย่างมากสำหรับยูเครน เนื่องจากสามารถยิงกระสุนนำวิถีจากแท่นยิงที่เคลื่อนที่ได้ นอกจากนี้ ยังไปถึงพิกัด ติดตั้ง ยิง และเคลื่อนย้ายได้รวดเร็ว ก่อนที่กองกำลังรัสเซียจะหาพบและโจมตีเครื่องยิงได้ ซึ่งคาดว่าจากแพ็คเกจช่วยเหลือล่าสุด เราจะได้เห็นศักยภาพของไฮมาร์สมากขึ้นรวมถึงรถถังและยานเกราะจู่โจมแนวราบแบรดลีย์
ส่วนระบบขีปนาวุธ ATACMS ที่เก่ากว่าและอยู่ในยูเครนมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ก็มีรุ่นที่ใหม่กว่าซึ่งสามารถเพิ่มพิสัยการยิงได้เท่าตัวเป็น 300 กิโลเมตรซึ่งจะทำให้สามารถโจมตีได้ลึกเข้าไปในดินแดนไครเมียได้มากขึ้น ซึ่งรัสเซียใช้ดินแดนไครเมียเป็นฐานทัพเรือสำคัญ ที่มียุทโธปกรณ์ทางอากาศคอยป้องกันคำพูดจาก สล็อต777
กระสุนปืนใหญ่คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
แล้วก็มาถึงอาวุธที่เป็นหัวใจหลักของยูเครน ซึ่งก็คือปืนใหญ่ฮาววิตเซอร์ เอ็ม777 (M777 Howitzer) ซึ่งจำเป็นต้องใช้กระสุนปืนใหญ่ขนาด 155 มม.
สหรัฐฯ ส่งกระสุนปืนใหญ่ดังกล่าวให้แก่ยูเครนแล้ว 2 ล้านลูก ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 และน่าจะส่งมาเพิ่มอีกในแพ็คเกจช่วยเหลือล่าสุดนี้สหรัฐฯ ระบุว่า มีเครือข่ายโลจิสติกที่แข็งแรงมาก ที่จะส่งอาวุธไปยังยูเครนได้อย่างรวดเร็ว
ยุทธภัณฑ์ต่าง ๆ น่าจะถูกเคลื่อนย้ายไปใกล้ยูเครนมากขึ้นแล้ว และทันทีที่มีการส่งมอบ ก็จะกลายเป็นทรัพย์สินของยูเครนอย่างเป็นทางการ แต่การส่งอาวุธไปยังแนวหน้าของการสู้รบ โดยเฉพาะอุปกรณ์ปืนใหญ่ อาจใช้เวลาหลายวัน หรือหลายสัปดาห์ เนื่องจากกองกำลังรัสเซียยังคงโจมตีถล่มภาคตะวันออกของยูเครนอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังมีเครื่องบินรบ F-16 ที่แม้จะมาก่อนงบช่วยเหลือก้อนนี้ แต่ก็สมควรพูดถึงตอนนี้ เพราะใกล้ที่จะได้ใช้งานแล้ว โดยนักบินและเจ้าหน้าที่ยูเครนยังคงรับการฝึกอบรมเครื่องบินเฉพาะแบบสำหรับ F-16 ของตะวันตก ที่ปัจจุบันอยู่ในโรมาเนีย เครื่องบินรบที่ทำหน้าที่ได้หลายอย่างนี้จะเสริมศักยภาพทางอากาศสู่อากาศ และอากาศสู่พื้น ได้แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งจะช่วยพัฒนาการป้องกันทางอากาศของยูเครนได้
ทั้งนี้ คาดว่าเดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ และสหรัฐฯ จะส่งมอบฝูงบิน “ไวเปอร์” ฝูงแรก จำนวนหลายสิบลำให้แก่ยูเครน ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งแม้ว่าจะไม่ใช่ตัวพลิกเกม แต่ก็เป็นอาวุธที่สำคัญอีกอย่างในคลังแสงของยูเครน
อย่างไรก็ตาม รัสเซียระบุว่า เครื่องบิน F-16 จะไม่สร้างความแตกต่างในสนามรบมากเท่าไร และจะถูกยิงตกโดยกองกำลังรัสเซีย
ครั้งแรกในรอบพันล้านปี! สองสิ่งมีชีวิตรวมกันเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวอย่างแท้จริง
ราคาทองวันนี้ (23 เม.ย.2567) เปิดตลาด “ร่วง 850 บาท” แรงเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย
“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องทนายดัง โพสต์หมิ่นประมาทเรียกค่าเสียหาย 5 ล้าน